หมู่เกาะกำ จังหวัดระนอง

หมู่เกาะกำ จังหวัดระนอง

หมู่เกาะกำ เป็นเกาะที่สวยงาม มีหาดทรายขาวบริสุทธิ์อยู่เกือบรอบเกาะ หมู่เกาะกำเป็นหมู่เกาะที่อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแหลมสน  มีเกาะกำใหญ่เป็นเกาะศูนย์กลางและรายล้อมด้วย เกาะกำนุ้ย เกาะกำกลางเกาะกำตก เกาะค้างคาว เกาะล้าน เกาะกำหนุ่ย พื้นที่ของหมู่เกาะส่วนใหญ่ อยู่ในแนวน้ำตื้น น้ำทะเลลึกไม่เกิน 7 เมตร มีเพียง เกาะค้างคาวที่อยู่ในแนวน้ำลึก ทะเลรอบเกาะมีความลึกประมาณ 10 เมตรจากหาดบางเบนจะ มองเห็นเกาะเรียงจากซ้าย ไป ขวาเรียงกันไปเริ่มจากหมู่เกาะกำนุ้ยอยู่ด้านซ้ายสุด ถัดมาเป็นหมู่เกาะญี่ปุ่น หมู่เกาะกำใหญ่อยู่ถัด ต่อเนื่องกันตรงกลาง เป็นเกาะค้างคาวและเกาะพยามทางด้านขวามือ

1. เกาะกำตก หรือเกาะอ่าวเขาควาย 

อยู่ถัดมาทางใต้ของเกาะค้างคาวใช้เวลาประมาณ 20 นาทีด้วยเรือหางยาวเล็ก เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยาน ซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่ดูแลรักษาและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ด้านหลังเกาะด้านตะวันตกเป็น ชายหาดที่ โค้งมาติดกันเป็นรูปวงกลมตามแนวเหนือ-ใต้ ด้วยธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์นี้เอง ชาวเรือจึงเรียกเกาะนี้ว่า 

อ่าวเขาควาย ตามแนวชายหาดมีต้นหูกวางและต้นจิกทะเลคอยให้ร่มเงา บนหาดมีปูเสฉวนอาศัยอยู่จำนวนมาก ในตอน กลางคืนจะได้ยินเสียงของปูเสฉวนที่ออกมาหากิน พ้นจากโค้งหาดด้านใต้ของเกาะ จะมองเห็น 

เกาะกำนุ้ย อยู่ทางซ้ายมือไม่ไกล มากนัก เมื่อมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงลงไปทางใต้ และจะมองเห็น 

เกาะกำใหญ่ ทางขวามือ เมื่อมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

2.เกาะกำใหญ่ เกาะกำนุ้ย 

สภาพป่าบนเกาะมีพันธุ์ไม้นานาชนิด รวมทั้งสัตว์ป่าโดยเฉพาะนกหลายชนิดอาศัยอยู่ ธรรมชาติรอบเกาะทุกเกาะ เป็นหาดทรายสลับโขดหิน บางบริเวณมีแนวปะการังและปลาหลายชนิดอาศัยอยู่รวมกัน

3.เกาะญี่ปุ่น หรือเกาะกำกลาง 

เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาหมู่เกาะกำ ตั้งอยู่กึ่งกางระหว่างเกาะกำใหญ่ ทางทิศตะวันออกและ ทิศตะวันตก ของเกาะกำนุ้ย รูปร่างของเกาะเป็นภูเขาเล็กๆโดยมีแนวชายหาดอยู่ทางด้านหน้าของเกาะ ทางทิศ ตะวันออก เกาะญี่ปุ่นถึงแม้จะเป็นเกาะเล็กๆแต่มีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ชายหาดของเกาะญี่ปุ่นมีทรายที่ขาวละเอียด นุ่มเท้า นอกจากนี้ยังมีน้ำทะเลที่ใสสะอาดจนมองเห็นพื้นทรายสามารถเดินเที่ยวตามชายหาด ได้รอบจนถึงด้าน เหนือของเกาะที่อยู่ใกล้ กับ เกาะเล็กๆอีกเกาะหนึ่ง นอกจากนี้รอบเกาะยังพอมีแนวปะการังดำน้ำชมได้แต่มี จำนวน ไม่มาก

หมู่เกาะกำไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่เรียกหาความสะดวกสบายเกินกว่าความจำเป็น แต่เพรีบพร้อม ความเรียบง่ายยิ่งใหญ่สำหรับ นักท่องเที่ยวที่ต้องการรับรู้แนบชิด และมองเห็นในความงดงามความสงบที่ธรรมชาติมอบให้

ขอขอบคุณ

http://www.paiduaykan.com/76_province/south/ranong/kohkam.html

http://asiaranong.com/ranong/main/tour-koh/koh-kam1.html

http://www.nemotour.com/sea/koh_gam.htm

เกาะผักเบี้ย

เกาะผักเบี้ย

"เกาะผักเบี้ย"  เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีชายหาดทั้งสองฟากฝั่งของเกาะ  คือ  ชายหาดทางด้านทิศใต้  และชายหาดทางด้านทิศเหนือ

ชายหาดด้านทิศใต้  เป็นชายหาดซึ่งเหมาะแก่การลงเล่นน้ำทะเล มีหาดทรายปนกรวดหยาบสีน้ำตาลอ่อนโค้งเว้าเป็นรูปครึ่งวงกลม น้ำทะเลสีเขียวอมฟ้าใส ด้านหน้ามีภูผาหินขนาดย่อมรูปร่างแปลกตาคล้ายกับดอกเห็ด (จะสามารถเห็นโขดหินนี้มีลักษณะคล้ายกับดอกเห็ดชัดเจนในช่วงเวลาน้ำลง) 

ชายหาดด้านทิศเหนือ  นั้นมีกรวดและหินใต้น้ำขนาดเล็กอยู่มากไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำทะเล แต่ในช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดลงต่ำมาก ๆ จะปรากฏแนวสันทรายจากชายหาดด้านนี้เชื่อมต่อไปถึง  "เกาะไร่"  ซึ่งอยู่ใกล้เคียง 

แม้ว่าโดยรอบเกาะผักเบี้ยจะมีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่บ้างแต่สภาพก็ไม่ค่อยสมบูรณ์และไม่สวยงามสักเท่าไหร่นัก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบสภาพภูมิทัศน์ต่าง ๆ โดยรวมของเกาะผักเบี้ยกับเกาะใกล้เคียงแห่งอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกาะห้อง จ.กระบี่, เกาะลาดิง หรือ หินแดง ก็จะพบว่าเกาะผักเบี้ยมีความสวยงามด้อยกว่าเกาะต่าง ๆ เหล่านี้พอสมควร สำหรับนักท่องเที่ยวที่เช่าเหมาเรือมาเองอาจเลือกพักผ่อน ณ เกาะผักเบี้ยเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วไปเลือกใช้เวลาเยอะ ๆ กับการท่องเที่ยวตามเกาะแห่งอื่น ๆ จะดีกว่า

ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสมนั้น สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปีแต่ช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม คือ กลางเดือน พ.ย. – ต้นเดือน พ.ค.

ขอขอบคุณ

http://www.thongteaw.com/Travel_tour_content_กระบี่/เกาะผักเบี้ย%20เกาะไร่.html

http://www.touronthai.com/เกาะผักเบี้ย-เกาะขาม-63001001.html#.Ue3mWo17Ipo

http://www.aonangboat.com/856463/เกาะห้อง-ทะเลใน-ลากูน-เกาะผักเบี้ย-เกาะพาราไดน์

เกาะไข่ จังหวัดสตูล

เกาะไข่  จ.สตูล

เกาะไข่ อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 15 กิโลเมตร อยู่ระหว่างทางไปเกาะหลีเป๊ะ  ใช้เวลาเดินทางจากเกาะตะรุเตาประมาณ 40 นาที สิ่งที่มีชื่อเสียงบนเกาะไข่ ได้แก่ ซุ้มประตูหินธรรมชาติ เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ทะเลรอบ ๆ เกาะไข่มีแนวปะการังอยู่โดยทั่วไป ทุกปีจะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่เป็นจำนวนมาก ทางด้านตะวันตกของเกาะมีหาดทรายสีขาวนวล และละเอียด น้ำทะเลใสเห็นผืนทรายใต้น้ำได้ชัดเจน ทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตาไม่อนุญาตให้ค้างแรมบนเกาะ 

   เกาะไข่เป็นเกาะที่อยู่ตรงกลาง แม้จะเป็นเกาะเล็ก ๆ แต่เป็นเกาะที่สวยไม่เหมือนที่อื่น  เพราะมีซุ้มประตูหินธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีรูกว้างตรงกลางขนาดเดินไปยืนเรียงกันได้หลายคน ที่มาของชื่อเกาะนี้มาจากทรายที่ขาวสะอาดประดุจเปลือกไข่ไก่ และ ณ  หาดทรายนี้เองที่เต่าทะเลมักจะขึ้นมาวางไข่ อย่างไรก็ตาม ทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตาไม่อนุญาตให้ค้างแรมบนเกาะ อีกทั้งยังไม่มีแหล่งน้ำจืดบนเกาะด้วย  ใกล้ ๆ กับเกาะไข่คือเกาะกลาง เกาะใหญ่แต่ไร้หาด มีแต่ป่าปกคลุม เหตุที่ชื่อเกาะกลาง เพราะเป็นเกาะที่อยู่ตรงกลางระหว่างเการตะรุเตาและเกาะอาดัง-ราวีนั่นเอง

สำหรับการเดินทางนั้น นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเรือโดยสารจากท่าเรือปากบารา-เกาะตะรุเตา-เกาะหลีเป๊ะ เรือโดยสารจะแล่นผ่านเกาะนี้ไปโดยไม่จอดให้ลงไปชมความงาม วิธีที่นักท่องเที่ยวนิยมคือใช้บริการแพกเก็จทัวร์ หรือหากมาเป็นหมู่คณะก็อาจติดต่อเหมาเรือได้ที่ท่าเรือปากบารา คราวนี้อยากจะแวะเกาะไหนก็ทำได้ดังใจ

ขอขอบคุณ

http://www.paiduaykan.com/76_province/south/satun/kohkhai.html

http://www.tripdeedee.com/traveldata/satun/satun07.php

http://travel.thaiza.com/เที่ยว-เกาะไข่-ชมซุ้มประตูหินธรรมชาติ/198764/

เกาะม้า เกาะเชือก

เกาะม้า  เกาะเชือก

เกาะม้า  เกาะเชือก  อยู่ระหว่างเกาะมุกและเกาะไหง  ทั้งสองเกาะ ถือเป็นจุดดำน้ำชมปะการัง ที่สวยที่สุดของทะเลตรังสามารถ ชม ปะการังอ่อนมีทั้งสีแดง สีส้ม สีม่วง สีเหลือง สีชมพู และอีกมากมาย สัมผัส ดาวขนนก เกาะเชือกเป็นเกาะเล็กๆ ทั้ง 3 เกาะ อยู่ในวงล้อมของเกาะมุก และเกาะกระดาน เป็นเกาะสัมปทานรังนกทั้งสามเกาะ ห่างจากเกาะไหงประมาณ 4 กิโลเมตร มีลักษณะ เป็นโขดหิน แหละหน้าผาหินสูงชัน ไม่มีชายหาด หรือบ้านเรือนของผู้คน และชาวประมงอาศัยอยู่บนเกาะทั้งสาม นอกจากมี กระท่อมของคนเฝ้ารังนกปลูกเรียงรายบนโขดหินรอบตัวเกาะ บริเวณรอบเกาะทั้งสามเป็นแหล่งดำน้ำ ชมปะการังชนิดต่างๆ มีทั้ง ปะการังน้ำตื้น และน้ำลึกรายรอบ มีฝูงปลาทะเลสีสันสวยงามนานาชนิด เช่น ปลานกแก้ว ปลาโนรี ปลาสินสมุทร ปลาลายเสือ ส่วนเกาะม้า อยู่ใกล้กับเกาะเชือก ไม่มีชายหาด ซึ่งหากมองผิวเผินจะดูเหมือนกองหินขนาดใหญ่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเท่านั้น 
จุดเด่น ของ 2 เกาะนี้  อยู่ที่จุดดำน้ำตื้นที่สมบูรณ์และสวยงาม ระหว่าง 2 เกาะนี้มีกระแสน้ำเชี่ยว จึงต้องใช้เชือกคอยช่วงพยุงตัวเวลาดำน้ำ จึงเป็นที่มาของเกาะเชือก ส่วนเกาะม้า รูปร่างของเกาะคล้ายกับหัวม้ากลางทะเล ปะการังอ่านหลากสีที่ปกติแล้วจะพบแต่ใจน้ำลึก สามารถพบเห็นได้ที่ระดับน้ำไม่ลึกนัก

หรือหากใครไม่ชอบเดิน อยากเที่ยวเมืองตรังให้ได้อรรถรสและเข้าบรรยากาศยิ่งขึ้น สามารถเหมารถตุ๊กตุ๊ก หัวกบ เที่ยวรอบเมือง เป็นรถตุ๊กตุ๊กที่พบเห็นได้เพียงหนึ่งเดียวในเมืองตรังเท่านั้น เรียกว่ากลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองตรังเลยทีเดียว รถตุ๊กตุ๊ก จะจอดรอผู้โดยสารให้เห็นหลายคันหน่อยก็ตรงบริเวณหน้าสถานีรถไฟเมืองตรังสนนราคาแล้วแต่ตกลงว่าจะไปตรงจุดไหนบ้าง โปรแกรมท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแวะ สถานีรถไฟตรัง ชมตึกเก่าชิโนโปรตุกีส หอนาฬิกา ศาลากลางจังหวัดตรัง บ้านนายชวน หลีกภัย ลานวัฒนธรรม ศูนย์จำหน่ายสินค้าโอทอป; วัดท่าจีน แม่น้ำตรัง ราคาจอยู่ที่ ชั่วโมงละ 200 บาท แล้วแต่ระยะทางและจำนวน สถานที่ สามารถติดต่อรถตุ๊กได้ที่สถานีรถไฟตรัง

ขอขอบคุณ

http://www.oceansmile.com/S/Trang/KohMar.htm

http://www.paiduaykan.com/province/south/trang/khoma.html

เกาะหินงาม

เกาะหินงาม

เกาะขนาดเล็กทางทิศใต้ของเกาะอาดัง ทั้งเกาะเต็มไปด้วยหินสีดำ กลมเกลี้ยง มันวาว เล่ากันว่าหินทุกก้อนมีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา หากใครนำติดตัวไปจะเกิดแต่หายนะ แต่หากไปชมแล้วเรียงก้อนหินได้ 12 ชั้น แล้วอธิษฐานขอพรก็จะได้สมปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่าง

เกาะหินงาม  เป็ฯเกาะเล็ก ๆ อยู่ในกลุ่มเกาะอาดัง – ราวี  อุทยานแห่งชาติตะรุเตา  เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ไม่มีหาดทรายใด ๆ เลยทั้งเกาะ  มีแต่ต้นไม้เล็ก ๆ ขึ้นบนเกาะ  และรอบ ๆ เกาะมีหินกลมมนสีดำมากมายทับถมกันไปทั่วทั้งเกาะ  ถือเป็นลักษณะเฉพาะ  ซึ่งมีอยู่เกาะเดียวในประเทศไทย  หินเหล่านี้มีทั้งก้อนใหญ่และก้อนเล็กโดยถูกน้ำพัดพามากองไว้ด้วยกัน  และการที่หินทุกก้อนกลมมน  ลวดลายวยงามนั้นเกิดจากการกัดกร่อนด้วยแรงลมและคลื่น  จนทำให้หินเหล่านี้มากองรวมกันได้อย่างแปลกประหลาด  นอกจากนี้แล้ว  หินเหล่านี้เมื่อถูกน้ำทะเลสาดใส่  จะแวววามแหละเปล่งประกายสีดำเข้ม  สะท้อนรับกับแสงตะวันดูสวยงามมาก ๆ และบนเกาะหินงามนี้ก็ยังมีป้ายเตือนเกี่ยวกับคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตาอยู่  โดยมีเนื้อหาว่า  “ผู้ใดบังอาจเก็บหินงามจากเกาะนี้ไป  ผู้นั้นจะถึงซึ่งความหายนะนานานับประการ”

เกาะหินงาม  เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอาดัง – ราวี  อยู่ห่างจากเกาะอาดังประมาณ  25  กิโลเมตร  สำหรับการเดินทางนั้น  ถ้าจะให้สะดวกควรเหมาเรือหางยาวจากเกาะหนีเป๊ะไป  ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ  20 นาที  โดยก่อนถึงเกาะหินงามจะผ่านเกาะจาบัง  ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ ก่อน  โดยเกาะนี้จะเป็นแหล่งดำน้ำที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่ง  มีฝูงปลาหลากหลายสายพันธุ์  และปะการังอ่อนหลายชนิด 

จุดเด่นของเกาะหินงามแห่งนี้  คือ  เป็นเกาะชายหาดที่ไร้หาดทราย  ชายหาดทั้งหมดของเกาะเป็นหินทั้งหมด  บริเวณด้านหน้าหาดนั้นมีหินก้อนกลมมนขนาดเท่า ๆ กัน  เมื่อโดนน้ำทะเลซัดขึ้นมา  หินเหล่านี้จะเปียกชุ่มส่องประกายมันวาวสะท้อนไปทั่ว  หินเหล่านี้มีสีเทาดำ  ยื่นเป็นหลายแหลมตัดออกไปในน้ำทะเลสีมรกต  ยามน้ำลดแนวหินจะปรากฏกว่างยิ่งขึ้น  ส่วนกลางของเกาะเป็นป่าขนาดย่อม ๆ ที่สมบูรณ์เขียวสด  และมีหินขนาดใหญ่หลายก้อนระเกะระกะอยู่

ขอขอบคุณ

http://www.tripdeedee.com/traveldata/satun/satun05.php

http://www.phudoilay.com/south/satun/KohHinNgam.php

http://www.paiduaykan.com/76_province/south/satun/hinngam.html

http://www.thaitravels.net/18733

เกาะละดิง หรือ เกาะเหลาลาดิง

เกาะลาดิง เกาะละดิง เกาะเหลาลาดิง อ.เมือง จ.กระบี่

เกาะลาดิง(เกาะเหลาลาดิง) – หินแดง : “เกาะลาดิง” หรือ “เกาะเหลาลาดิง” เป็นชื่อซึ่งใช้เรียกขานเกาะสัมปทานรังนกนางแอ่นเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะผักเบี้ย – เกาะห้อง จ.กระบี่ (หากใช้เกาะลาดิงเป็นตำแหน่งอ้างอิง “เกาะผักเบี้ย” จะตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือ ส่วน “เกาะห้อง จ.กระบี่” จะตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะลาดิงตามลำดับครับ) เกาะแห่งนี้มีทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงาม ทั้งเวิ้งอ่าวเล็ก ๆ ซึ่งรายล้อมด้วยซอกหลืบโพรงผาหินปูนสูงชันอันเป็นแหล่งพำนักอาศัยของบรรดานกนางแอ่นตัวน้อย ,หาดทรายสีขาวที่มีเนื้อเนียนละเอียดนุ่มเท้า และน้ำทะเล สีเขียวมรกตสดใส ด้วยความสวยงามดังกล่าวข้างต้นนี้เองที่ทำให้ชาวต่างชาตินิยมเรียกเกาะแห่งนี้ว่า “Paradise Island” หรือ “เกาะสวรรค์” (แต่คนท้องถิ่นบางส่วนนิยมใช้ชื่อเรียกทับศัพท์ไปตรง ๆ เลยว่า “เกาะพาราไดซ์” ) บริษัทซึ่งมี “โปรแกรมทัวร์หมู่เกาะห้อง จ.กระบี่” เกือบทุกแห่งจะต้องจัด  “เกาะลาดิง”

แม้ว่าโดยรอบเกาะลาดิงจะมีแนวปะการังอยู่บ้างแต่ก็ไม่ค่อยสมบูรณ์สักเท่าไหร่นัก การนอนอาบแดด เล่นน้ำริมชายหาด ให้อาหารปลา หรือเดินชมทัศนียภาพอันแปลกตาของโตรกผาต่าง ๆ จึงกลายเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมายังเกาะลาดิงนิยมทำมากกว่าการดำน้ำ

ห่างออกไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะลาดิงและเกาะห้องมีเกาะเล็ก ๆ ซึ่งเป็นจุดดำน้ำตื้นที่มีความสมบูรณ์ของแนวปะการังอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ “หินแดง” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะแดง”

 “หินแดง” เป็นเกาะขนาดย่อมซึ่งโดดเด่นด้วยกองหินน้อยใหญ่สีน้ำตาลแดงแซมด้วยแมกไม้ใบสีเขียวสดที่ขึ้นกระจายอยู่ทั่วไป สภาพน้ำทะเลโดยรอบใสจนแม้ว่านักท่องเที่ยวจะนั่งอยู่เฉย ๆ บนเรือก็ยังสามารถมองเห็นแนวปะการังใต้ท้องน้ำได้ ชนิดของปะการังที่พบบริเวณจุดดำน้ำหินแดงแห่งนี้ เช่น ปะการังแผ่นขนาดเล็ก ,ปะการังโขด ,ปะการังก้อน เป็นต้น นอกเหนือไปจากแนวปะการังอันสวยงามแล้วนักท่องเที่ยวยังจะได้พบกับฝูงปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลืองจำนวนมากซึ่งคอยว่ายวนเวียนอยู่รายรอบในขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการดำน้ำด้วย

ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม  สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปีแต่ช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม คือ กลางเดือนพ.ย. – ต้นเดือน พ.ค. 

ขอขอบคุณ

http://www.thongteaw.com/Travel_tour_content_กระบี่/เกาะลาดิง%20เกาะเหลาดิง%20หินแดง.html

http://www.paiduaykan.com/province/south/krabi/kohlading.html
http://1081009.tourismthailand.org/search/result/latest/เกาะลาดิง

เกาะเหลาเหลียง

เกาะเหลาเหลียง

เกาะเหลาเหลียง เป็นหนึ่งในหมู่เกาะเภตรา ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามตั้งอยู่ในเขตจังหวัดตรัง ประกอบไปด้วยเกาะเภตรา เกาะเหลาเหลียงน้อง เกาะเหลาเหลียงพี่ เกาะทะลุ เกาะตาใบ เกาะตะลุ้ยน้อย เกาะตะลุ้ยใหญ่ และเกาะตะเกียง หมู่เกาะดังกล่าวอยู่ในเขตสัมปทานรังนกนางแอ่น ทำให้หมู่เกาะเภตรา กลายเป็นพื้นที่ปิดมานานกว่า 10 ปี สภาพของธรรมชาติบนเกาะและในทะเล จึงยังคงความสวยงาม เป็นธรรมชาติ ทั้งหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ความอุดมสมบูรณ์ของปะการัง และความหนาแน่น ของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ รอการมาสัมผัสจากนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ

เกาะเหลาเหลียง  อยู่ห่างจากท่าเรือหาดยาว ประมาณ 22 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง โดยเรือเร็ว ประมาณ 35 นาที และโดยเรือทัวร์ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เหลาเหลียงน้องมีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงโดยรอบ ซึ่งเหมาะสำหรับกีฬาปีนหน้าผา มีหาดทรายขาวสะอาดและน้ำทะเลใสบริสุทธิ์ รวมไปถึงแนวปะการังที่สวยงามสมบูรณ์ทอดตัวอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ที่เหลาเหลียงน้องนั้น ใต้น้ำเต็มไปด้วยฝูงปลาการ์ตูนและปลาสวยงามอื่นๆ มีกัลปังหาหลากสีที่ยังสมบูรณ์และหาดูได้ยาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับดำน้ำตื้นด้วยท่อหายใจ

เนื่องจากเกาะเหลาเหลียง  เป็นเกาะสัมปทานรังนกนางแอ่น จึงไม่ได้มีการสร้างเป็นรีสอร์ทเหมือนบนเกาะอื่นๆ  ที่พักก็เลยเป็นเต้นท์แบบ Sea Camping ซึ่งเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ (3x5x2.2m) ภายในแบ่งเป็นสองห้อง เป็นห้องนั่งเล่น กับห้องนอน มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นเตียง หมอน ผ้าห่ม พัดลมไฟฟ้า และโคมไฟหัวเตียง

ขอขอบคุณ

http://www.triptrang.com/travel1_5.php

http://www.trangzone.com/travel_detail.php?ID=49

http://www.weekendhobby.com/camp/webboard/shtml/359.shtml